วันนี้(16 ธ.ค.)ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนางปุณิกา ณัฐกิติพร อายุ 57 ปี ชาวบ้าน ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี หลังได้รับรายงานว่า มีการเปิดเผยเรื่องราวไว้เป็นอุทาหรณ์เตือนลูกหลานให้ช่วยกันดูแลผู้สูงอายุที่ใส่ฟันปลอม ให้ระมัดระวัง เพราะถ้าไม่โชคดีแบบแม่ตนคงเป็นอันตรายถึงชีวิต พร้อมได้นำรูปภาพฟันปลอมที่แพทย์ผ่าตัดออกมาจากท้อง นางสุรินทร์ โพธิเงิน อายุ 76 ปี ซึ่งเป็นแม่ของตนมาให้ดู เป็นฟันปลอมมีอยู่ 4 ซี่ หลุดลงไปในท้องอยู่บริเวณลำไส้ พร้อม นางปุณิกา หรือพี่บุ้งกี๋ เปิดเผยว่า เริ่มแรกแม่บ่นปวดท้องด้านขวา และสังเกตุอาการกันเองว่าน่าจะปวดจากงูสวัด จึงซื้อยามากินก็ไม่หาย จากนั้นพาไปหาหมอด้านสูตินารีเวช และเกี่ยวกับโรคลำไส้ กินยารักษาแต่ไม่ยังไม่หาย ครั้งล่าสุดพาไปโรงพยาบาล ทั้งฉีดยาและได้ยามาทานก็ยังไม่หาย แม่มีอาการหนักขึ้นเรื่อยๆประมาณอาทิตย์กว่าๆ
น้องชายตนจึงพามาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ตรวจ MRI เจอบริเวณลำไส้มีลักษณะนูนพองมาก หมอคิดว่าต้องส่องกล้องดูในลำไส้ จึงส่งตัวมาที่อีกรพ. ตอนแรกที่ส่องกล้องยังไม่พบ เพราะตัวที่อักเสบเกิดอาการบวมมาก แพทย์จึงให้ผ่าตัดด่วน และได้วิเคราะห์ว่าอาจจะเป็นเนื้องอก หรือ เนื้อร้าย และผ่าตัดเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา พบว่ามีฟันปลอมอยู่ในลำไส้จุดที่ผ่าตัด จึงไม่รู้ว่าแม่กลืนฟันไปตอนไหน ก่อนหน้านั้นเคยมีอยู่วันหนึ่ง แม่กำลังกินยาเข้าไป เหมือนว่ายาติดคอก็เลยบอกให้ทุบหลังให้หน่อย จึงใช้มือทุบให้ แม่บอกว่ายาลงไปแล้ว ส่วนน้องอีกคนไปหาแม่เหมือนกันและแม่เล่าให้ฟังว่า กินหมูแล้วรู้สึกแข็งๆ ก็เคี้ยวแล้วกลืนลงไปเลยไม่รู้ว่ากรณีที่กลืนหมู หรือกลืนยาทำให้ฟันปลอมแม่หลุดลงไปในท้อง
พี่บุ้งกี้ เปิดเผยต่ออีกว่า ตอนที่รู้ว่าในท้องมีฟันปลอมอยู่ทุกคนรู้สึกตกใจและไม่อยากจะเชื่อ จนคุณหมอนำรูปถ่ายและฟันปลอมมาคืน ซึ่งขณะนี้คุณแม่กลับมานอนพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน อาการเริ่มดีขึ้นแล้ว ตนอยากฝากให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับการดูแลผู้สูงอายุที่ใส่ฟันปลอมควรระมัดระวังเรื่องการกินอาหาร หรือกินของขบเคี้ยวที่มีลักษณะแข็งควรหลีกเลี่ยง หรืออาจจะถอดฟันปลอมออกก่อน หรือเลือกอาหารที่ไม่แข็ง เพราะอาจพลาดพลั้งฟันปลอมหลุดลงไปในลำไส้และคงไม่มีปาฏิหารย์แบบแม่ตนก็เป็นได้ และตนเชื่อว่าผลบุญจากที่แม่ชอบทำบุญคงทำให้เกิดปาฏิหารย์แบบนี้ด้วย
ขณะที่ คุณป้า สุรินทร์ โพธิเงิน อายุ 76 ปี กล่าวว่า ตนไม่เชื่อเลยว่าจะมีฟันปลอมอยู่ในท้องนานนับเดือน จนทำให้ปวดท้องทรมานแบบนี้ ตอนที่ฟื้นขึ้นมา เพื่อนข้างเตียงบอกว่าตนมีฟันปลอมอยู่ในท้องก็ไม่เชื่อ จนหมอมาบอกและนำฟันปลอมมาคืนถึงจะเชื่อ รู้สึกตกใจมาก และไม่รู้เลยว่าตนกลืนลงไปตอนไหน ทุกวันนี้ตนไม่กล้าใส่ฟันปลอมอีกเลยเพราะกลัวมาก อาการตนตอนนี้เหลือแค่เจ็บแผลเท่านั้น อาการปวดท้องแทบจะไม่มีเลย อยากฝากเตือนเพื่อนๆที่สูงวัยทุกคนที่ใส่ฟันปลอมให้ระวังเวลาจะกินอาหารค่อยๆเคี้ยว อย่ารีบกิน เพราะบางทีเราไม่รู้ว่าเรากลืนอะไรลงไปบ้าง และอีกอย่างหนึ่งคือตนดีใจมากที่ไม่ต้องตามหาฟันปลอมที่หายไปนานนับเดือนแล้ว
About Author
