ชาย 19 คลั่ง จับลูกเมียขังในบ้านต่อสายไฟพ่วงถังแก๊ส

Social Share

ชายวัย 19 ปีคลั่ง จับเมียกับลูกน้อยวัย 2 เดือนขังไว้ในบ้านพร้อมต่อสายไฟไปที่ถังแก๊ส และได้ขู่ว่าใครเข้ามายุ่งจะระเบิดให้กระจุย

Social Share

     เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านหมี่ ลพบุรี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าเกิดเหตุชายวัยรุ่นมีอาการ คลุ้มคลั่งจับเมียและลูกน้อยวัย 2 เดือนขังไว้บนบ้าน พร้อมกับนำสายไฟฟ้ามาทำเป็นสายชนวนต่อไปที่ถังแก็สหุงต้มภายในบ้านเพื่อเตรียมพร้อมที่จะระเบิดให้กระจุยไปทั้งบ้านหากยังคุยปัญหาคาใจไม่สำเร็จ หรือหากทางเจ้าหน้าที่เข้ามาเพื่อจะจับกุมตน หลังจากนั้นจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบ้านหมี่พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิสว่างอริโยธรรมสถานบ้านหมี่ร่วมกันเดินทางไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูงบริเวณหน้าต่างบนตัวบ้านพบชายหนุ่มคนก่อเหตุโผล่หน้าออกมาทางหน้าต่างและได้ตระโกนคุยกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตนเองถูกกล่าวหา ถูกใส่ร้ายจาก น.ส.ญณรดา ลือกิจนา อายุ 31 ปี พี่สาวของภรรยา กล่าวหาว่าตนเสพยาและค้ายาเสพติดซึ่งมันไม่เป็นความจริง และวันนี้จะได้รู้เรื่องกันสะที เพราะว่าพี่ภรรยาต้องกลับมาที่บ้านเพื่อมาเลือกตั้ง อบต. ตนจึงได้เตรียมพร้อมไว้เพื่อจะขอพูดกันให้รู้เรื่อง หากคุยไม่รู้เรื่อง ตนก็พร้อมที่จะระเบิดถังแก๊ส และจะขอสู้ตายหากตำรวจบุกเข้ามาจับตัวเองเพื่อจบปัญหาทั้งหมด

โดยทางเจ้าหน้าที่ได้พยายามพูดจาเกลี่ยมกล่อมให้ชายผู้ก่อเหตุได้เย็นลง แต่ นายอรุณ ก็ยังไม่มีท่าทีจะสงบลงและได้ ใช้ไม้ทุบตีสิ่งของภายในบ้านเสียงดังสนั่น โดยมีเสียงร้องเรียกแม่จากภรรยามาเป็นระยะ จนกระทั้ง นายสุภัทร ลายน้ำเงิน กำนันตำบลบ้านกล้วย เดินทางมาถึงพร้อมขอเจรจาใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง นายอรุณผ้ก่อเหตุ จึงยอมมอบตัวกับกำนัน ถอดสายชนวนออกจากถังแก๊ส และพาลูกเมียลงมาจากบ้านอย่างปลอดภัย การตรวจสอบพบว่าบนบ้านพบหญิงสาวนั่งอุ้มลูกน้อยไว้ในตักอยู่ บริเวณประตูหน้าบ้านพบถังแก๊สต่อสายไฟเป็นชนวนกับหัวแก๊สหวังระเบิดบ้าน มี นายอรุณ พรหมศรี หรือทิน อายุ 19 ปี หนุ่มชาว อ.ธารโต จ.ยะลา(ผู้ก่อเหตุ)

 

จากการสอบถามแม่ยายของนาย นายอรุณ(ผู้ก่อเหตุ)เล่าว่านาดรุณ รักลูกสาวตนเป็นอย่างมากและ เมื่อเช้าได้ยินว่าจะขอพูดคุยกับ ลูกสาวของตนอีกคน ถึงเรื่องที่กล่าวหาว่า นายอรุณ เสพและค้ายาเสพติด โดยตนเองและภรรยา นายอรุณ ขอร้องไม่ต้องรื้อฟื้นเรื่องเก่า ขอให้ยกโทษกันไป แต่กลับทำให้ นายอรุณ เกิดอาการโมโหคลุ้มคลั่งขึ้น จนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว และต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านหมี่ ได้รับแจ้งจาก นางเพชรา เข้าพบกับพนักงานสอบสวน สภ.บ้านหมี่เพื่อขอถอนแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับ นายอรุณ เพราะสงสารลูกและหลาน โดยทางญาติและครอบครัว เห็นพ้องกันว่าจะเหมารถยนต์เพื่อให้ นายอรุณ ลูกสาวตนและหลานวัย 2 เดือน กลับไปทำมาหากิน ประกอบอาชีพยังบ้านเกิดที่จังหวัดยะลา โดยความสมัครใจ พนักงานสอบสวน สภ.บ้านหมี่ จึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานก่อนที่จะว่ากล่าวตักเตือนไม่ให้ใช้อารมณ์ และก่อเหตุดังกล่าวอีกโดย นายอรุณ ก็รับปากและจะขอพาเมียกับลูกกลับบ้านเกิดไปทำมาหากินตามประสาจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับทางพี่สาวของเมียอีกต่อไป

About Author

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *