ภาพ - ข่าว : ราชบุรี / สุจินต์ นฤภัย ... อดีตนายทหารเก็บศพภรรยาไว้ที่บ้าน
ล่าสุดผู้สื่อข่าว จึงได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 233/36 หมู่ 10 ต.ดอนตะโก อ.เมือง จ.ราชบุรี เพื่อพบกับ พ.อ.ไพรวัน เอี่ยมคะณา อดีตนายทหารที่เก็บศพภรรยาไว้ภายในบ้าน จนกว่าลูกชายคนเล็กอุปสมบทถึงจะนำร่างภรรยาไปประกอบพิธีฌาปนกิจ โดยได้เล่าให้กับทางผู้สื่อข่าวฟังว่า หลัง นางศศิวิมล เอี่ยมคะนา หรือ บอล อายุ 56 ปี ภรรยาของตนที่อยู่ร่วมทุกร่วมสุขกันมา 35 ปี และเสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็ง เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยมีการตั้งศพสวดพระอภิธรรมอยู่ที่วัดมหาธาตุวรวิหาร อ.เมืองราชบุรี จำนวน 9 คืน พร้อมได้ตกแต่งห้องภายในบ้านอย่างสวยงาม เพื่อเก็บร่างของภรรยาที่เสียชีวิตไปแล้วไว้อยู่ด้วยกันภายในบ้าน ซึ่งจนปานนี้ได้ล่วงเลยมาเกือบปีนั้น
โดยกิจวัตรประจำวันของตน ทุกเช้าก่อนจะออกไปทำงาน หรือภารกิจต่างๆ ตนจะต้องนำอาหารมาให้กับภรรยาของตนและจุดธูปคุย ปรึกษา บอกกล่าวว่าวันนี้ตนจะไปทำอะไรที่ไหนบ้าง และหลังกลับเข้าบ้านทุกครั้ง ตนจะมาจุดธูปนั่งคุยกับภรรยา พร้อมเล่าเรื่องที่ตนไปเจอ หรือมีอุปสรรคต่างๆให้ภรรยาฟัง เพื่อปรึกษาสารทุกข์สุกดิบกัน เหมือนภรรยาของตนมีชีวิตด้วยกันตลอดเวลา
พ.อ.ไพรวัน เล่าอีกว่า ซึ่งถึงแม้ภรรยาของตนเสียชีวิตไปแล้ว แต่ก็เกิดเรื่องราวแปลกๆ เหมือนภรรยาของตนยังมีชีวิตอยู่ในบ้าน ไม่ได้ตายจากกันไปไหน อย่างทุกคืนก่อนวันพระ ตนและคนภายในบ้านจะได้ยินเสียงดังคล้ายๆ เหมือนมีคนลากเก้าอี้ลากโต้ะจัดของ เหมือนภรรยาจะมาเตือนตนว่า “อย่าลืมทำบุญน่ะ” เพราะทุกวันพระตนจะทำบุญเลี้ยงพระให้ภรรยาเสมอ
และเมื่อในช่วงคืนวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่าน มาตนต้องออกไปพบปะประชาชนทั้งวัน จนเหนื่อยและเครียด ทำให้ตนนอนไม่หลับ จนช่วงเช้าวันที่ 18 ต.ค. ตนได้นำอาหารมาให้ภรรยา และบอกภรรยาว่า ตนต้องไปฟังอบรมกับทาง กกต.จ.ราชบุรี ในช่วง 10 โมงเช้า แต่หลังนำอาหารมาให้ภรรยาตนได้เพลียแล้วเผลอหลับไปคล้ายจะครึ่งหลับครึ่งตื่น จนตนได้ยินเสียงก๊อกๆเคาะประตู 4-5 ครั้ง และได้ยินเสียงคล้ายภรรยามาปลุกตนให้ตื่น พร้อมพูดว่า ตื่นได้แล้ว มีนัดไปฟังอบรมกับทางกกต. ทำให้ตนตื่นและไปฟังอบรมกับทางกกต.ได้ทัน
พ.อ.ไพรวัน เล่าต่อว่า ทุกๆวันเสาร์-อาทิตย์ ตนจะฝันเห็นภรรยา มาพูดคุยกับตนว่า “วันเสาร์อาทิตย์ ชาวบ้านจะหยุดอยู่กับบ้าน ให้ตนรีบตื่นแต่เช้าแล้วออกไปพบปะกับชาวบ้าน” พอช่วงเช้ามืดตนจะได้ยินเสียงคนเคาะประตูเรียกให้ตื่น เมื่อตนลุกขึ้นไปเปิดประตูเพื่อถามคนในบ้านว่า ใครเคาะประตูกับได้รับคำตอบว่า ไม่มีใครไปเคาะประตู ส่วนวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันรับสมัครเลือกตั้งนายกอบต. ตนยังฝันเห็นภรรยาขอไปด้วย ทำให้ตนต้องนำรูปภรรยานั่งรถสามล้อถีบ ไปสมัครเลือกตั้ง เพราะภรรยาของตนชอบนั่งสามล้อถีบเป็นอย่างมาก และตนก็อยากจะให้ภรรยาของตนมาเป็นขวัญและกำลังใจให้กับตน
พ.อ.ไพรวัน ยังเล่าต่ออีกว่า เดิมที่ตนตั้งใจจะนำร่างภรรยาไปประกอบพิธีฌาปนกิจ หลังจากลูกคนเล็กอุปสมบท แต่ด้วยความรักและผูกพันธ์กับภรรยา ทำให้ช่วงเช้าวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนได้เขียนจม.สัญญากับภรรยาว่า “คำสัญญาที่มีต่อกัน เราทั้ง 2 ขอให้สัญญากันว่า เราทั้ง 2 จะขออยู่ร่วมกันแบบนี้ตลอดไป จนกว่าอีกฝ่ายจะเสียชีวิตตามกันไป และขอให้ลูกหลาน นำร่างทั้งพ่อและแม่ไปเก็บไว้ร่วมกัน ตามสถานที่ที่เคยบอกกับลูกหลานไว้ เพื่อจะได้อยู่ร่วมกันทั้งชาตินี้ และชาติหน้าตลอดไป ซึ่งกำลังจะทำพื้นที่เก็บรอไว้ล่วงหน้า ขอให้ลูกหลานทำตามวัตถุประสงค์ของผู้เป็นพ่อด้วย”
ทุกวันนี้ตนไม่ได้คิดว่าภรรยาของตนเสียชีวิตไปแล้ว เพราะมีหลายๆอย่างเกิดขึ้นกับตนและครอบครัว เหมือนภรรยาของตนใช้ชีวิตอยู่กับคนภายในครอบครัวเหมือนปกติ ไม่ได้จากกันไปไหน ถึงแม้ว่าตอนนี้จะอยู่กันคนละภพ “แม้แต่ตอนนี้ ตนก็ขอยืนยันว่า ตนรักภรรยามาก และจะรักตลอดไป จนกว่าตนจะตายจากไป” พ.อ.ไพรวัน กล่าว
About Author
