รวบเจ้าของบ้านพยายามข่มขืนลูกสาวช่างก่อสร้าง

Social Share

ขอนแก่น-รวบหนุ่มหลอกเด็กหญิงวัย 12 ปี ให้ช่วยทำความสะอาดบ้าน อ้างมีของจะให้ ก่อนล็อคตัวเข้าห้องนอนพยายามข่มขืน โชคดีพ่อเข้าช่วยไว้ทัน เห็นผู้ต้องหามีอาวุธปืนรีบเข้าแจ้งความ หวั่นถูกทำร้ายอีก

Social Share

วันที่ 13 ม.ค.2565 ที่ สภ.เมืองขอนแก่น เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนายสุวิชาญ อ่านนอก อายุ 39 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 44 ม13 ต .พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาคดีอนาจารลูกสาวช่างก่อสร้างบ้านของพี่สาว สอบปากคำเพิ่มเติมหลังก่อเหตุ หลอกล่อและพยายามข่มขืน ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของช่างที่มาก่อสร้างบ้านให้พี่สาวของตนเอง ในพื้นที่บ้านแอวมอง ต.พระลับ หลังเกิดเหตุ พ่อและแม่ของน้องได้เข้าแจ้งความ ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่นเนื่องจาก ผู้ก่อเหตุมีอาวุธปืนกลัวว่าจะกลับมาทำร้ายตนและครอบครัว

 

         โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายวินัย  ทองทัพ กำนัน ต.พรพลับ พร้อมด้วย พ.ต.ท.จิรัฐเกียรติ  ศรวิเศา รอง ผกก.(สอบสวน) หน.สภ.ย่อย พระลับ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครอง ลงพื้นที่สอบปากคำเพิ่มเติม ด.ญ.เอ อายุ 12  ปี รวมทั้ง พ่อและแม่ ของน้องเอ ภายในบ้านพักไม่มีเลขที่ ซึ่งตั้งห่างจากโรงเรียนขอนแก่นวิทยายน 2 ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ประมาณ 300 เมตร เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม หลังเกิดเหตุชายอายุ 39 ปี ก่อเหตุพยายามข่มขืน ด.ญ.เอ ภายในบ้านพักแห่งหนึ่งภายในหมู่บ้านแอวมอง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา โชคดีที่พ่อและแม่ ด.ญ.เอ ช่วยเหลือไว้ทัน ก่อนที่คนร้ายจะอาศัยจังหวะช่วงชุลมุนใช้อาวุธปืนข่มขู่และป้องกันตัวและหลบหนีการจับกุมของทางเจ้าหน้าที่ไปได้  ซึ่งเมื่อเดินทางไปถึง พบ ด.ญ.เอ อยู่ในสภาพที่หวาดกลัวและหวาดผวา ไม่กล้าที่จะอกมาพบกับทางเจ้าหน้าที่ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องแจ้งถึงการเดินทาพบกับอัยการ จ.ขอนแก่น เพื่อทำการร่วมสอบปากคำร่วมกันกับทีมสหวิชาชีพ รวมทั้งการจัดกำลังเจ้าหน้าที่มาประจำที่บ้านหลังดังกล่าวซึ่งเป็นที่พักของครอบครัวน้องเอ เพื่อความปลอดภัย ขณะที่จากการตรวจสอบภายในบ้านพักพบว่ามีการวางอาวุธมีด รวมทั้งจอบ และเสียบตามจุดต่างๆ เนื่องจากครอบครัวไม่มั่นใจในความปลอดภัยและเตรียมพร้อมในการที่จะป้องกันตัวหากคนร้ายกลับมาก่อเหตุอีกครั้ง

แม่ของ ด.ญ.เอ เล่าว่า วันเกิดเหตุ ผู้ต้องหาขอให้ไปช่วยล้างจาน 10 ใบ ให้เงิน 100 บาท ให้เอาลูกสาวไปด้วย แต่ทางแม่ได้ปฏิเสธจะให้ลูกอยู่บ้านที่กำลังก่อสร้าง ไม่ให้ไปบ้านของผู้ก่อเหตุด้วย แต่ผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ผู้ก่อเหตุได้ขับรถไปหาลูกสาวของตนเอง บอกว่าแม่เรียกให้ไปทำงานช่วย ซึ่งทางแม่ไม่ทราบว่าน้องจะมากับคนร้าย  โดยช่วงแรกน้องได้เข้ามาช่วยแม่ทำงาน หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุได้เรียกน้องไปเอาของ แม่ก็ยืนรอแต่ไม่เห็นน้องออกมาตนก็เลยเอะใจ และได้ยินเสียงเด็กร้อง ซึ่งเป็นเสียงของลูกสาวจึงไปเรียกสามีให้มาช่วยออกก่อน และได้ยินเสียงน้องออกมาจากห้องนอนของผู้ก่อเหตุ

     ทางด้าน พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยว่า  หลังจากที่พ่อและแม่ของผู้เสียหาย ได้เข้าแจ้งความต่อ เจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ก็มีการประสานกับญาติของผู้ต้องหาเพื่อช่วยเกลี้ยกล่อมให้เข้ามอบตัว กระทั่งวันนี้ (13 ม.ค.65) ญาติได้พานายสุวิชาญเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่จึงแสดงหมายจับทันที โดยผู้ต้องหาให้การว่า ทางพ่อแม่เด็กเป็นช่างรับจ้างก่อสร้างบ้านให้พี่สาวของตนเอง พ่อมีหน้าที่ฉาบปูนที่บ้าน ส่วนแม่ของผู้เสียหายให้มาทำความสะอาดบ้าน ต่อมาระหว่างที่ทำงานรับจ้าง ทางผู้ต้องหาได้ขับรถจักรยานยนต์ออกมาเพื่อจะรับตัวเด็กหญิงมาที่บ้านและอ้างว่าให้ไปช่วยแม่ทำความสะอาดบ้าน พอมาถึงบ้านที่เกิดเหตุทางผู้ต้องหาก็เดินมาหาน้อง ในระหว่างที่น้องและแม่ทำความสะอาดบ้านอยู่ ผู้ต้องหาก็เรียกน้องออกมาบอกว่ามีของจะให้  ให้เดินตามออกมาหน่อย พอน้องเดินตามหลังมา ทางผู้ต้องหาก็ได้ดึงมือน้องเข้ามาในห้อง และล็อคประตูห้องทันที  พอเข้าไปผู้ต้องหารับสารภาพว่ามีการกอดเอว หอมแก้ม และ เด็กได้ร้องขอความช่วยเหลือ จึงเอามือปิดปาก จากนั้นพ่อแม่ของเด็กได้ยินเสียงลูก แต่ไม่เห็นตัวของลูก จึงเดินเข้ามาหา และได้ยินเสียงออกมาจากในห้องจึงได้ใช้แสลงงัดห้องออก และเข้าช่วยน้องไว้ได้ทัน

เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่าไม่ได้มีการล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งในวันเกิดเหตุผู้ต้องหาได้หลบหนีออกจากบ้านเพราะ หลังจากที่ช่วยน้องออกมาได้ ผู้ต้องหามีการต่อสู้กับพ่อขอเด็กอยู่สักพัก หลังจากนั้นผู้ต้องหาแกล้งสลบแน่นิ่ง ทำให้พ่อของเด็กเดินออกมาพร้อมกับช่วยลูก หลังจากนั้นผู้ต้องหาใช้จังหวะนั้นลุกขึ้นหลบหนีขึ้นชั้น 2 ของบ้าน โดยพ่อของเด็กสังเกตเห็นว่า ผู้ต้องหาพกอาวุธปืนด้วยจึงไม่ยุ่ง และออกมาจากบ้าน เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.เมืองขอนแก่น   เบื้องต้นได้ตั้งข้อหา 1.อนาจารเด็กไม่เกิน15ปี  2.พรากผู้เยาว์อายุไม่เกิน 13 ปี โดยใช้กำลังประทุษร้าย 3. มีอาวุธปืนและกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนที่พรุ่งนี้จะนำตัวฝากขังต่อศาล

ภาพ ภูมินทร์ พินิจ – ณัชภัทร ลาภทิพย์

About Author

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *